ตามที่พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 21 ได้กำหนดให้นายกสภาสถาบันอุดมศึกษาและกรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา ต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีธรรมาภิบาล และให้สภาสถาบันอุดมศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจากบุคคลซึ่งเป็นกลางและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เพื่อทำหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับว่าด้วยธรรมาภิบาลของสถาบันอุดมศึกษา ประกอบกับกระทรวงการคลังได้กำหนดหลักเกณฑ์กระทรวงการคลัง ว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการตรวจสอบภายในสำหรับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ. 2565 เพื่อให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการตรวจสอบภายในเพื่อเพิ่มคุณภาพและปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐให้ดีขึ้น
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบ ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบ พ.ศ. 2565 ประกาศ ณ วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2565 หมวด 2 อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจสอบ
ข้อ 13 คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย ทั้งในระดับสภามหาวิทยาลัย ระดับมหาวิทยาลัย ระดับผู้บริหาร และระดับหน่วยงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล
(2) กำหนดกรอบการติดตามและสอบทานระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย โดยหารือร่วมกับอธิการบดีและคำนึงถึงนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบอาจกำหนดวิธีการอื่นเพิ่มเติมจากข้อสรุปที่ได้ร่วมกับอธิการบดีได้ตามที่เห็นสมควร
(3) ให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะจากการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลงาน แก่สภามหาวิทยาลัยเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย
(4) จัดทำและทบทวนกฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบ ตามข้อบังคับนี้ให้สอดคล้องกับขอบเขตความรับผิดชอบในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อเสนอให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาและให้ความเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไข หากมีเหตุผลความจำเป็น
(5) สอบทานกระบวนการด้านการกำกับดูแลที่ดี ระบบการบริหารความเสี่ยงโดยรวมถึงการจัดการความเสี่ยงด้านการทุจริต ระบบการควบคุมภายใน และระบบการรับแจ้งเบาะแสของมหาวิทยาลัย
(6) สอบทานระบบการปฏิบัติงานและการควบคุมภายในด้านการเงินของมหาวิทยาลัย ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อกำหนดอื่นของมหาวิทยาลัย
(7) ให้ความเห็นชอบกฎบัตรการตรวจสอบภายใน และอนุมัติแผนการตรวจสอบของสถานตรวจสอบภายใน อำนาจตามข้อนี้ให้รวมถึงการแก้ไข ปรับปรุงกฎบัตรการตรวจสอบภายในและแผนการตรวจสอบด้วย
(8) สอบทานให้มหาวิทยาลัยมีระบบการจัดทำรายงานทางการเงินที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ รวมถึงพิจารณารายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือการกระทำที่มีโอกาสเกิดการทุจริตที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของมหาวิทยาลัย
(9) กำกับดูแลงานตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัย ให้สถานตรวจสอบภายในมีความเป็นอิสระอย่างเพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ ช่วยแก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้น และสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งเสริมสร้างให้ผลการตรวจ ความเห็น และข้อเสนอแนะของสถานตรวจสอบภายในมีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์สูงสุดแก่การบริหารงานของมหาวิทยาลัย
(10) ให้ข้อเสนอแนะการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย ถอดถอน เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง และประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีของผู้อำนวยการสถานตรวจสอบภายใน โดยเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยเพื่อให้ความเห็นชอบ ในการนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบรับฟังความเห็นของอธิการบดีเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้อำนวยการสถานตรวจสอบภายในไม่เห็นด้วยกับผลการประเมินของคณะกรรมการตรวจสอบที่ผ่านความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัยแล้ว ให้ยื่นขอทบทวนต่อสภามหาวิทยาลัยโดยผ่านนายกสภามหาวิทยาลัย
(11) ประชุมหารือร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชี ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นชอบเกี่ยวกับผลการตรวจสอบและเรื่องอื่น ๆ และอาจเสนอแนะให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินสอบทานหรือตรวจสอบประเด็นหรือเรื่องใดที่เห็นว่าจำเป็น รวมถึงเสนอค่าธรรมเนียมการสอบบัญชีต่อสภามหาวิทยาลัยเพื่ออนุมัติ
(12) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการตรวจสอบ และผู้ตรวจสอบภายในพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
(13) สอบทานข้อบังคับนี้ให้มีความทันสมัยและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นประจำทุกปี เพื่อเสนอให้ปรับปรุงแก้ไขหากเห็นว่าจำเป็นและสมควรต่อสภามหาวิทยาลัย
(14) เชิญผู้บริหารหรือบุคลากรของหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย เพื่อให้ชี้แจงข้อซักถามของคณะกรรมการตรวจสอบและส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
(15) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เพื่อทำการใด ๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบ
(16) พิจารณานำหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการตรวจสอบภายในและการปฏิบัติการควบคุมภายในสำหรับหน่วยงานของรัฐ หรือหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ใช้บังคับอยู่ขณะที่ออกข้อบังคับฉบับนี้และที่จะแก้ไขเพิ่มเติม มาประยุกต์ใช้กับมหาวิทยาลัยโดยคำนึงถึงมาตรฐานสากลในเรื่องนั้น ๆ ด้วย
(17) ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่สภามหาวิทยาลัยหรือนายกสภามหาวิทยาลัยมอบหมาย รวมถึงตามที่กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบของทางราชการและของมหาวิทยาลัยกำหนด
เพื่อให้การบริหาร การใช้จ่ายเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยมีความสอดคล้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาและส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพ การวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนการพัฒนาองค์กร รวมทั้งเพื่อให้มีความเหมาะสม คล่องตัว ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 (2) และ (8) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. 2521 สภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชในการประชุมครั้งที่ 11/2561 เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561 จึงมีมติให้ออกข้อบังคับข้อบังคับ มสธ. ว่าด้วยการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2561 ประกาศ ณ วันที่ 26 ต.ค. 2561
ข้อ ๑๒ ให้มีคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สิน” ซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้ง ประกอบด้วย
(๑) กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานกรรมการ
(๒) อธิการบดีเป็นรองประธานกรรมการ
(๓) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่น้อยกว่าสามคนแต่ไม่เกินห้าคน เป็นกรรมการ
(๔) รองอธิการบดีที่อธิการบดีมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ อาจแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการตามความเหมาะสมด้วยก็ได้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๓) ให้แต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิภายในและภายนอกตามคำแนะนำของประธานกรรมการและอธิการบดี ทั้งนี้ ให้มีผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมด
ข้อ 15 ให้คณะกรรมการมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พิจารณาเสนอแนะการกำหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยให้บรรลุวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัยต่อสภามหาวิทยาลัย
(๒) พิจารณากรอบการลงทุน แผนและบริหารการลงทุน การใช้จ่ายเงิน และการหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินและทรัพยากรของมหาวิทยาลัยให้ได้ประโยชน์สูงสุดเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย
(๓) พิจารณาเสนอแนะแผนและแนวทางในการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนามหาวิทยาลัยและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของมหาวิทยาลัยต่อสภามหาวิทยาลัย
(๔) พิจารณาเสนอแนะในการแก้ไขข้อบังคับว่าด้วยการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย หรือข้อบังคับอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระเบียบและประกาศเกี่ยวกับบัญชีค่าจ้างของพนักงานมหาวิทยาลัยและลูกจ้างของมหาวิทยาลัย และค่าตอบแทนประจำตำแหน่งหรือค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่กำหนดให้เสนอต่อสภามหาวิทยาลัย
(๕) ออกระเบียบในส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางด้านการงบประมาณ การเงิน การบัญชีของมหาวิทยาลัยเพื่อให้การบริหารของมหาวิทยาลัยมีความคล่องตัวและบรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ เมื่อได้ออกระเบียบแล้วให้รายงานต่อสภามหาวิทยาลัย
(๖) กำหนดอัตราเรียกเก็บค่าบริการและค่าธรรมเนียมจากการใช้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย ยกเว้นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษา ค่าบำรุงการศึกษาและค่าวัสดุการศึกษา ให้เสนอสภามหาวิทยาลัยพิจารณาอนุมัติ
(๗) กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการบริหารและการจ่ายเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย รวมถึงการกำหนดอัตราการจ่ายเงินรายได้ค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมของนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัย คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้ง รวมถึงคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานซึ่งสภามหาวิทยาลัยแต่งตั้ง ยกเว้นการกำหนดอัตราการจ่ายเงินรายได้ค่าตอบแทนหรือเงินประจำตำแหน่งของอธิการบดี รองอธิการบดี หรือผู้บริหารของมหาวิทยาลัย ต้องได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย
(๘) กำกับดูแลการจัดหาผลประโยชน์จากเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยให้เป็นไปตามนโยบายของสภามหาวิทยาลัยเกี่ยวกับการจัดหาผลประโยชน์จากเงินรายได้
(๙) พิจารณากลั่นกรองงบประมาณของมหาวิทยาลัยเพื่อเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย
(๑๐) พิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกิดจากการใช้ระเบียบเกี่ยวกับการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย เฉพาะที่กำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
(๑๑) ติดตาม ประเมินและรายงานผลการใช้ทรัพยากรต่อสภามหาวิทยาลัยโดยประสานงานและติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบภายในและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
(๑๒) ให้คำปรึกษาและแนะนำการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยแก่อธิการบดี
(๑๓) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือบุคคลใดเพื่อดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
(๑๔) ปฏิบัติหน้าที่อื่นอันเกี่ยวกับการบริหารเงินรายได้และทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยตามที่สภามหาวิทยาลัยมอบหมาย
